2024 KTM 350 EXC-F SIX DAYS

ความสามารถในการปรับตั้ง

READY TO RACE ได้ง่ายกว่าที่เคย ระบบช่วงล่างใหม่ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้จักรยานยนต์ 2024 KTM EXC-F SIX DAYS นำเสนอระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งได้แบบไร้เครื่องมือทั้งสองด้าน ที่ด้านหลัง มีเทคโนโลยี PDS อันเป็นตำนานและชนะการแข่งขันของเราซึ่งได้รับการออกแบบโช้คอัพใหม่ทั้งหมด พร้อมระบบควบคุมระยะการอัดแบบคู่ที่ปรับได้ด้วยมือ สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าสำหรับความเร็วสูงและความเร็วต่ำได้ในไม่กี่วินาที ที่ด้านหน้า มีโช้คหน้าที่ปรับตั้งได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ด้วยปุ่มคลิกที่ปรับได้ด้วยมือที่ด้านล่างของฐานโช้คและที่ฝาบนของโช้ค ทำให้การปรับตั้งสามารถทำได้ระหว่างทางอย่างง่ายดายไม่ต่างจากการบิดคันเร่ง

หม้อกรองอากาศ

หม้อกรองอากาศใหม่ได้รับการออกแบบมาให้มีการไหลเวียนของอากาศสูงสุดและน้ำเข้าได้น้อยที่สุด พร้อมตำแหน่งท่อทางเข้าที่จัดวางไว้ในตำแหน่งที่เที่ยงตรง เพื่อป้องกันการเปลี่ยนรูปของอากาศและรักษาระดับการป้องกันตัวกรอง ตัวป้องกันน้ำกระเซ็นเฉพาะสำหรับรถ Enduro ใต้หม้อกรองอากาศจะป้องกันไม่ให้น้ำหรือสิ่งสกปรกกระเด็นขึ้นมาจากล้อหลัง ในขณะที่ไส้กรอง Twin Air และที่รองรับตัวกรองอากาศนำเสนอระบบติดตั้งแบบป้องกันความผิดพลาดที่เรียบง่าย เพื่อให้การติดตั้งตัวกรองทำได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าตัวกรองอากาศจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ เพื่อการบำรุงรักษาข้างสนามแข่งอย่างรวดเร็ว

ถังเชื้อเพลิง

สวิตช์เกียร์

สำหรับปี 2024 ผลิตภัณฑ์กลุ่ม KTM Enduro ทุกรุ่นจะได้สวิตช์เกียร์ใหม่ที่ใช้งานง่าย ทางด้านขวาของแฮนด์บาร์ คุณจะพบสวิตช์สตาร์ทเครื่อง/ดับเครื่องใหม่ และทางด้านซ้ายคือสวิตช์เลือกแมปใหม่ ซึ่งในรุ่น 4 จังหวะ จะช่วยผู้ขับขี่เปิดคุณสมบัติการป้องกันการลื่นไถล และฟังก์ชัน Quickshifter ในการเดินทาง ซึ่งให้มาเป็นมาตรฐานสำหรับรุ่น KTM SIX EXC DAYS ทุกรุ่น

กราฟิก

¡โฮลา! อาร์เจนตินา! ผลิตภัณฑ์ KTM SIX DAYS ปี 2024 ออกมาเฉลิมฉลองการจัดงาน ISDE ครั้งล่าสุดในอาร์เจนตินา ด้วยการออกแบบที่เตะตา ด้วยแรงบันดาลใจจากสีธงชาติอาร์เจนติน่า ทำให้ KTM SIX DAY ปี 2024 ไม่ถูกมองผิดหรือสับสนว่าเป็นสิ่งอื่นใด 

เครื่องยนต์

ด้วยความเบา กะทัดรัด และน้ำหนักเพียง 28.8 กก. เครื่องยนต์ KTM 350 EXC-F จึงเป็นผลงานทางวิศวกรรมที่โดดเด่น สำหรับรุ่นปี 2024 เครื่องยนต์จะเอียงไปด้านหลัง 2° พร้อมเฟืองโซ่ที่ได้รับการปรับตำแหน่งใหม่เพื่อปรับปรุงจุดศูนย์ถ่วง พร้อมกำลังรอบสูง กำลัง 51 แรงม้า และการออกแบบแบบแรงเสียดทานต่ำอันชาญฉลาด ให้กับคุณทุกครั้งที่บิดคันเร่ง

Quickshifter

การเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ใช้คลัตช์เป็นเกมง่ายๆ ด้วย Quickshifter ใหม่ล่าสุด ที่ติดตั้งให้มาเป็นมาตรฐานในรุ่น KTM SIX DAYS 4 จังหวะ คุณสมบัตินี้ทำงานโดยการขัดจังหวะการจุดระเบิดเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งจะช่วยให้ทำการเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้ก้านคลัตช์ ในขณะที่บิดคันเร่งจนสุด ในทางเทคนิคแล้ว เซ็นเซอร์บนดรัมเปลี่ยนเกียร์จะตรวจจับแรงกดบนคันเปลี่ยนเกียร์ แล้วส่งสัญญาณไปยังอีซียู และขัดจังหวะการสันดาปเพื่อแทรกเกียร์ถัดไปให้เข้าที่ นอกจากนี้ Quickshifter จะสามารถปิดใช้งานได้ด้วยสวิตช์เลือกแมปใหม่ และใช้งานได้กับเกียร์ 2 ถึงเกียร์ 6 เท่านั้น

การควบคุมเสถียรภาพ

การฝ่าฟันผ่านภูมิประเทศที่ชื้นแฉะและเต็มไปด้วยโคลนนั้นกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยระบบป้องกันการลื่นไถล (TC) ใหม่ ระบบ TC จะวิเคราะห์อินพุตคันเร่งจากผู้ขับขี่ และอัตราการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ หากรอบเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเร็วเกินไป EMS จะสูญเสียการยึดเกาะ และลดกำลังที่ส่งไปยังล้อหลัง ซึ่งจะรับประกันการยึดเกาะสูงสุด แน่นอนว่าระบบนี้สามารถปิดได้เพื่อให้การควบคุมที่สมบูรณ์

หน่วยควบคุมออฟโร้ด

หน่วยควบคุมออฟโร้ด (Offroad Control Unit) หรือ OCU ใหม่ที่อยู่ใต้เบาะนั่งจะมาแทนที่ฟิวส์และรีเลย์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด เอาต์พุตทั้งหมดจะสลับสวิตช์โดยขึ้นกับสัญญาณจากอุปกรณ์ปรับแรงดันไฟฟ้าและ ECU อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่กระแสไฟเกิน เอาต์พุตจะปิดการทำงานแบบเฉพาะส่วน ซึ่งจะช่วยให้ตรวจจับข้อผิดพลาดได้ง่าย เนื่องจากสถานะของเอาต์พุตแต่ละส่วนจะแสดงสถานะด้วยไฟ LED สีแดงหรือสีเขียว สิ่งนี้หมายความว่าการวินิจฉัยปัญหาไฟฟ้าระหว่างเส้นทางนั้นจะง่ายเพียงแค่ยกเบาะนั่งขึ้นเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องพกฟิวส์สำรองให้ยุ่งยากอีกต่อไป

แมปเครื่องยนต์ที่เลือกได้

สวิตช์เลือกแมปที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมีให้มาเป็นมาตรฐานในรุ่น KTM SIX DAYS ช่วยให้เลือกระหว่างแมปเครื่องยนต์ 2 แบบได้อย่างง่ายดาย แมป 1 เป็นแมปพลังงานมาตรฐานที่เป็นเชิงเส้นตรงมากกว่า และสามารถคาดเดาได้มากกว่า ในขณะที่แมป 2 เป็นแมปที่ดุดันมากขึ้น ให้การตอบสนองของคันเร่งมากขึ้น และระเบิดกำลังเอาต์พุตอย่างที่คมชัดมากขึ้น

แบตเตอรี่และมัดสายไฟ

KTM 350 EXC-F SIX DAYS ติดตั้งระบบสตาร์ทไฟฟ้าที่เชื่อถือได้และได้รับการพิสูจน์มาแล้ว เช่นเดียวกับ KTM 4 จังหวะรุ่นอื่นๆ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สตาร์ทลิเธียมไอออน 2 Ah น้ำหนักเบาพิเศษ ให้เวลาการสตาร์ทที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ชุดสายไฟมีการจัดวางองค์ประกอบทางไฟฟ้าส่วนใหญ่เอาไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่ใต้เบาะ เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย 

ความเข้ากับสรีระ

KTM EXC-F รุ่นปี 2024 นำเสนอตำแหน่งท่านั่งนักขี่รูปสามเหลี่ยมที่เน้นความสำคัญที่ผู้ขับขี่ ด้านที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ให้การสัมผัสเข่าที่ดีขึ้น - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยืนบนพักเท้า - พร้อมพื้นผิวการยึดเกาะที่ดีขึ้นทุกด้าน เบาะนั่งแบบเรียบ ทำจากวัสดุพลาสติกที่ไล่โคลนที่สะสมตัวในสภาวะชื้นแฉะและเป็นโคลน พร้อมวัสดุหุ้มเบาะนั่งที่ให้การยึดเกาะสูง ให้ผู้ขับขี่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกและมีการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ซับเฟรมอะลูมิเนียมเสริมใยโพลีเอไมด์ ที่ให้สัมผัสและการตอบสนองที่ไม่มีใครเทียบได้ สิ่งเดียวที่คุณต้องใส่ใจคือการนำทางผ่านภูมิประเทศข้างหน้าคุณเท่านั้น 

ท่อไอเสีย

เติมเสียงคำรามด้วยระบบไอเสียของ KTM 350 EXC-F SIX DAYS ที่ได้รับการออกแบบมาด้วยความเชี่ยวชาญเพื่อส่งมอบสมรรถนะเหนือชั้นด้วยน้ำหนักต่ำสุด การออกแบบท่อเฮดเดอร์แบบ 2 ชิ้นทำให้สามารถออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดที่สุดที่จะเป็นไปได้ โดยการเดินท่อเฮดเดอร์ใกล้กับเครื่องยนต์อย่างยิ่ง เพื่อให้การรวมจุดศูนย์ถ่วงสูงสุดและเสี่ยงที่จะถูกหินกระเด็นน้อยที่สุด ที่ส่วนท้ายมีท่อไอเสียแบบสั้นกะทัดรัดทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา เคลือบสีแอนทราไซต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ SIX DAYS และแสดงโลโก้ SIX DAYS อย่างภาคภูมิ

ส่วนประกอบระดับท็อป

KTM คันแรกที่ใช้ชื่อ SIX DAYS เปิดตัวออกมาโลดแล่นตั้งแต่ปี 1996 เกือบ 30 ปีต่อมา เรายังคงรักษามรดกที่มีชีวิตนี้เอาไว้ KTM EXC-F SIX DAYS ทุกรุ่นได้รับการปฏิบัติในฐานะ KTM SIX DAYS อย่างเต็มภาคภูมิ ตั้งแต่ทริปเปิลแคลมป์ชุบอะโนไดซ์สีส้ม ไปจนถึงจานเบรกหลังแบบตัน องค์ประกอบแต่ละอย่างใน KTM SIX DAYS ได้รับการคัดสรรมาเพื่อให้เหมาะกับงานที่มันทำ ประทับตราด้วยโลโก้ SIX DAYS ที่ทุกคนปรารถนา และถูกปลดปล่อยเพื่อให้มันออกไปครอบครองสนามแข่ง

โครงรถ

KTM EXC-F SIX DAYS ปี 2024 ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเป็นการเฉพาะเพื่อให้ความคงรูปตามยาว พร้อมโครงรถที่เคลือบสีฝุ่นสีส้มกลอสซี่ใหม่ทั้งหมด ที่ให้การตอบสนองผู้ขับขี่ที่ยอดเยี่ยม การดูดซับพลังงาน และให้ความเสถียรที่ความเร็วสูง สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยการปรับตำแหน่งมวลเคลื่อนที่แบบหมุนในโครงรถและการรวมการเชื่อมต่อหัวควบคุมทิศทางที่หล่อขึ้นรูปเข้ามา ตัวยึดที่พักเท้ายังขยับเข้ามาด้านใน ทำให้จักรยานยนต์บางลงเพื่อลดความเสี่ยงในการเกี่ยวด้านข้าง และเมื่อการขี่สิ้นสุดลง ขาตั้งแบบหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ช่วยให้มั่นใจว่าอาวุธ Enduro ของคุณจะยืนเด่นเป็นสง่า 

ซับเฟรม

ซับเฟรมน้ำหนักเบาพิเศษใหม่ประจำการที่ด้านหลังของโครงรถหลัก ด้วยโครงสร้างโพลีเอไมด์ 2 ส่วนและอะลูมิเนียมเสริมแรง โดยอาศัยการคำนวณไดนามิกเชิงคณนา ทำให้ค่าความแข็งเกร็งที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาสู่ซับเฟรม ที่ให้การควบคุมและการตอบสนองผู้ขับขี่ที่โดดเด่น และซับเฟรมใหม่ยังสั้นลงและกะทัดรัดขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ด้วยความสามารถในการบิดงอและยืดหยุ่นได้ในกรณีที่เกิดการชน และแตกหักยากขึ้น ซับเฟรมผสานรวมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องมีโครงยึด ตัวยึดจับ หรืออุปกรณ์ยึดเพิ่มเติมที่ไม่จำเป็นใดๆ

โช้คหน้า WP XACT แบบ Closed Cartridge

โช้คสปริงแบบ Closed Cartridge ขนาด 48 มม. ใหม่ของ WP XACT ได้มารวมอยู่ใน KTM Enduro ปี 2024 ให้การหน่วงการสั่นสะเทือนที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ ปรับปรุงประสิทธิภาพการไหลของน้ำมันไฮดรอลิกและระบบ hydro stop ใหม่ในระยะ 68 มม. ส่วนปลายของระยะชัก และโช้คหน้านี้ช่วยรับประกันประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ไม่ว่าจะเป็นระดับใด วงแหวนป้องกันโช้คหน้าแบบใหม่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เศษดินรุกล้ำเข้ามาด้วย และเหนือสิ่งอื่นใด โช้คหน้าใหม่ช่วยให้สามารถปรับการทำงานช่วงอัดและช่วงคืนตัวได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ

โช้ค WP XACT

แนวคิดโช้คหลัง PDS ยังคงเป็นจุดเด่นของ KTM Enduro และได้รับการปรับปรุงด้วยตัวยึดโช้คใหม่ที่ปรับปรุงระบบกันท้ายรถต่ำของโครงตัวถังอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้สูงสุดและเป็นมิตรกับการบำรุงรักษาสำหรับการแข่งรถเอนดูโร นอกจากนี้ โช้คหลัง WP XPLOR PDS แบบใหม่ยังประจำการที่ด้านหลัง โดยมีน้ำหนักน้อยลงกว่ารุ่นก่อนหน้า 380 กรัม นำเสนอการออกแบบกะทัดรัดใหม่ ซีลตลับลูกปืนใหม่ และลูกสูบหลักใหม่ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการไหลของน้ำมันไฮดรอลิก และปรับปรุงการหน่วงการสั่นสะเทือนให้มีความสม่ำเสมอ รวมทั้งให้ความสามารถในการปรับตั้งได้อย่างเต็มที่ด้วยปุ่มคลิกแบบหมุนด้วยมือที่ใช้งานง่าย สำหรับการปรับเปลี่ยนระหว่างการเดินทาง

ล้อและยาง

KTM 350 EXC-F SIX DAYS อยู่บนชุดล้ออัลลอย GIANT กำลังสูง ที่ประทับตรา SIX DAYS คู่กับดุมล้อที่ขึ้นรูปด้วย CNC และน็อตขันซี่ล้ออะลูมิเนียม หุ้มด้วยชุดยาง Metzeler 6 DAYS Extreme ที่ยึดเกาะได้ดีพิเศษ ให้การป้องกันล้อหมุนฟรีที่ดีเยี่ยมในทุกสภาวะ

เสถียรภาพ

2024 KTM EXC-F ยังคงแข็งแกร่งในทุกความเร็ว ด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งและจุดต่อหัวควบคุมทิศทางที่หล่อขึ้นรูป และทริปเปิลแคลมป์ที่ผลิตด้วยเครื่อง CNC ผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดสูง คุณสมบัติเหล่านี้มีความแข็งของก้านบังคับเลี้ยวที่ปรับแต่งอย่างเหมาะสม การจัดตำแหน่งกระบอกโช้คที่สมบูรณ์แบบ และรูปทรงที่เที่ยงตรงของแคลมป์จับโช้คเพื่อให้มั่นใจถึงการตอบสนองสูงและการทำงานของโช้คที่ราบรื่น - ไม่ต้องพูดถึงเสถียรภาพของจักรยานยนต์เหล่านี้ที่ความเร็วสูงสุดยอด คานยึดด้วยยางได้รับออกแบบใหม่และปรับแต่งทางโทโพโลยี เพื่อให้พื้นผิวที่ยึดเกาะได้ดีขึ้น เพื่อลดการบิดของคันบังคับ มาพร้อมกับการติดตั้งแบบตายตัวซึ่งให้ความยืดหยุ่นที่พอดีอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับการติดตั้งแคลมป์สามชั้นแบบหล่อขึ้นรูป

การดูดซับพลังงาน

นอกจากนั้น โครงรถที่สร้างขึ้นอย่างชำนาญ ขึ้นรูปด้วยน้ำ ตัดด้วยเลเซอร์ และเชื่อมด้วยหุ่นยนต์ ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อให้การตอบสนองผู้ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและเสถียรภาพในการเคลื่อนที่แนวเส้นตรง ตลอดจนมีส่วนประกอบหลายชิ้น ซึ่งหมายความว่าโครงรถจะทำหน้าที่เป็น "ระบบกันสะเทือน" ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น ช่วยให้ผู้ขับขี่เหนื่อยล้าน้อยลงในการขับขี่รอบแล้วรอบเล่า ตัวยึดโช้คใหม่ไม่ได้เชื่อมต่อกับตัวกระบอกหลักอีกต่อไป ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกันท้ายรถต่ำของโครงตัวถัง ในขณะที่ซีลหัวควบคุมทิศทางชิ้นเดียวแบบใหม่ที่สามารถบำรุงรักษาได้ง่าย ก็ช่วยเพิ่มความเชื่อถือได้ การออกแบบท่อแบบปิดยังให้เส้นทางใหม่เมื่อเชื้อเพลิงล้นอีกด้วย และประการสุดท้าย ขาตั้งข้างแบบชิ้นเดียวที่หล่อขึ้นรูปใหม่ยังทำให้ไม่ต้องรู้สึกเหมือนกำลังจมเมื่อจอดรถอีกต่อไป

ไฟหน้า LED

KTM EXC-F รุ่นปี 2024 นำเสนอชุดไฟหน้า LED และหน้ากากไฟหน้าแบบใหม่ เพื่อส่องทางข้างหน้าคุณ ตัวหน้ากากมีการปรับปรุงการป้องกันทริปเปิลแคลมป์จากดินโคลนที่กระเด็นจากล้อ และใช้สายรัดยางเพื่อช่วยให้การประกอบดีขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ชุดไฟ LED ให้ความสว่างเพิ่มขึ้น 300% ทำให้การขับขี่ในที่มืดเป็นประสบการณ์ใหม่อย่างสมบูรณ์